ค้นหาข้อมูล
สำนักงาน ก.พ.

นายกฯ ย้ำข้าราชการต้องปรับความคิดให้ทันสมัย เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเป็นกุญแจสู่ประเทศไทย 4.0

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลสำหรับข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ (Digital Government Skill Development) ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์กรมหาชน) หรือ สคช. เพื่อจัดทำแผนพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลให้บุคลากรภาครัฐ เตรียมพร้อมรัฐบาลดิจิทัลยุคใหม่ ในวันนี้ (8 มีนาคม 2560) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ

โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวในการปาฐกถาพิเศษเรื่อง รัฐบาลดิจิทัล กุญแจสู่ประเทศไทย 4.0 : Digital Government the Key success to Thailand 4.0” ว่า “การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลสำหรับข้าราชการและบุคลากรภาครัฐนี้จะเป็นก้าวหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ประเทศไทยจำเป็นต้องก้าวไปข้างหน้า และส่วนราชการก็ต้องพยายามเร่งรัดให้ทุกกระบวนการดำเนินการไปได้ โดยต้องคำนึงถึงความต้องการจากภาคประชาชน เร่งสร้างความเข้าใจในทุกภาคส่วนทุกอย่างก็จะดำเนินไปได้เร็วขึ้น การจะขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลได้ต้องบูรณาการจากสามส่วน คือข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ แผนงานหรือแผนยุทธศาสตร์ และการบริหารจัดการคือการดำเนินการด้านงบประมาณ ต้องคำนึงถึงภารกิจหลักและภารกิจรองไปพร้อมกันด้วย โดยเริ่มจากงานเล็กๆ แต่นำมาประกอบกันให้เกิดชิ้นงานใหญ่ เพื่อให้ได้ผลตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
ประเด็นสำคัญคือต้องปรับความคิดข้าราชการให้เป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” นำระบบดิจิทัลมาเสริม การทำงาน ข้าราชการมีหน้าที่ที่จะต้องพัฒนาตนเองเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องเรียนรู้ตลอดชีวิตและต้องทันสมัย โดยคำนึงถึงการทำงานระหว่าง คนรุ่นใหม่ คนรุ่นเก่า ที่จะต้องเตรียมพร้อมและก้าวเดินไปด้วยกัน”

สำหรับการร่วมขับเคลื่อนภาครัฐเป็นรัฐบาลดิจิทัล และก้าวไปสู่ประเทศไทย 4.0 ด้วยการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลสำหรับข้าราชการและบุคลากรภาครัฐนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ “การบูรณาการและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานรัฐบาลดิจิทัลตามแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2560-2564” ซึ่งสำนักงาน ก.พ. รับผิดชอบในการยกระดับศักยภาพบุคลากรภาครัฐโดยจะให้การสนับสนุนและส่งเสริมการสร้างผู้นำด้านดิจิทัลในภาครัฐและการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ปฏิบัติงานด้านดิจิทัลเพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรภาครัฐในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการทำงานและการให้บริการของรัฐด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการยกระดับงานของภาครัฐเป็นงานที่มีคุณค่าสูงขึ้น (High Value Job) นอกจากนี้ จะช่วยผลักดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนกระบวนการเรียนรู้ของข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ ที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้แบบมีเป้าหมายการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลายไม่จำกัดเฉพาะการฝึกอบรมเท่านั้น การเรียนรู้เพี่อให้สามารถปฏิบัติได้จริง และการเรียนรู้ที่มีการกำกับติดตามเป้าหมายและการให้ข้อมูลย้อนกลับที่ชัดเจน ต่อเนื่องและเป็นระบบด้วย

นางเมธินี เทพมณี เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เปิดเผยว่า ในฐานะหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลภาครัฐ จะช่วยสนับสนุนผลักดันให้ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐสามารถปรับตัวให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และมีความพร้อมในทุกมิติ ทั้งด้านความรู้ความสามารถ ทัศนคติและความคิด เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนภาครัฐเป็นรัฐบาลดิจิทัล และก้าวไปสู่ประเทศไทย 4.0 โดยจะได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลสำหรับข้าราชการและบุคลากรภาครัฐต่อคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ข้าราชการและส่วนราชการต่าง ๆ ถือปฏิบัติต่อไป

ทางด้าน ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. เปิดเผยว่าบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลสำหรับข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ (Digital Goverment Skill Development) เป็นความร่วมมือกัน 3 หน่วยงานระหว่าง EGA กับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือสำนักงาน ก.พ. และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์กรมหาชน) หรือ สคช. ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาบุคลากรภาครัฐทั้งในระดับบริหารและเจ้าหน้าที่ให้สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาองค์กรสู่รัฐบาลดิจิทัล  และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนให้การบริการประชาชนในรูปแบบใหม่ รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการทั้งภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาองค์ความรู้และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาการให้บริการประชาชน ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวไว้ในพิธีเปิดสถาบัน ถึงความสำคัญในการเร่งพัฒนาบุคลากรภาครัฐให้มีความพร้อมในด้านทักษะดิจิทัล

ในด้านความรับผิดชอบของ EGA ประกอบด้วย การจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อพัฒนาข้าราชการและบุคลากรภาครัฐให้มีความรู้และทักษะในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างรอบรู้และเท่าทันการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีรวมถึงการจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรม สื่อ เครื่องมือ เทคนิคและวิธีการพัฒนาที่เหมาะสม เพื่อให้รัฐบาลสามารถสร้างกำลังคนที่มีทักษะสูง ความพร้อมทางด้านความคิด มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาการทำงาน การบริการ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ Thailand 4.0 นอกจากนี้ ได้สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ เช่น ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการประเมินทักษะ แผนการพัฒนารายบุคคล แหล่งการเรียนรู้ดิจิทัล วางระบบการติดตามและประเมินผลพัฒนาระดับบุคคล ฐานข้อมูลของการพัฒนา เพื่อการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร เป็นต้น โดยจะรายงานผลการดำเนินงานให้คณะรับมนตรีทราบ

ด้านนายวีระชัย ศรีขจร ผู้อำนวยการสถาบันพีฒนาคุณภาพวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. เปิดเผยว่า ได้สนับสนุนให้มีการจัดทำมาตรบานสมรรถนะความสามารถด้านการใช้ดิจิทัล ให้กับข้าราชการและบุคลากรของภาครัฐ ซึ่งจะดำเนินการประเมินสมรรถนะข้าราชการและบุคลากรของรัฐ จำนวน 15,000 คน ภายในปี 2560 เพื่อยกระดับการบริการของภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 นอกจานี้สถาบันฯ ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทักษะดิจิทัลแก่นักเรียน นักศึกษา  และผู้ประกอบอาชีพทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคการบริการ ภาคการเกษตร และบุคคลทั่วไป เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการประกอบอาชีพ ก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำของสังคม นำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนและรอบด้าน

ในบันทึกข้อตกลงนี้ หน้าที่ของ สคช. จะเข้ามาจัดทำทักษะด้านดิจิทัลของข้าราชการและบุคลากรภาครัฐให้สอดคล้องกับกรอบการพัฒนา (Development Roadmap) จัดทำคลังข้อสอบและดำเนินการประเมินทักษะด้านดิจิทัล ที่สอดคล้อกับกรอบการพัฒนาเพื่อการปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล รวมถึงให้การสนับสนุนการรับรองทักษะด้านดิจิทัลสำหรับข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ

Share this post

สำนักงาน ก.พ.

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) องค์การกลางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลในราชการพลเรือน ภายใต้ระบบคุณธรรมทำหน้าที่ส่งเสริมการพัฒนาข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีคุณภาพชีวิตและการทำงานที่ดี และพัฒนาระบบการ บริหารกำลังคนในราชการ ให้เป็นกลไกการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติอย่างมีประสิทธิภาพ