ค้นหาข้อมูล
สำนักงาน ก.พ.

ที่พัก-การหาที่พัก ในประเทศฝรั่งเศส

ที่พัก-การหาที่พัก / การเซ็นสัญญา-เอกสารผู้ค้ำประกัน / การตรวจสภาพบ้านพัก การประกันบ้านพัก การขอเงินช่วยเหลือ APL / นวพรรณ ธาตุเพ็ชร- ผู้เขียน

การหาที่พัก สามารถหาได้จากเว็ปไซต์ดังต่อไปนี้ www.pap.comwww.seloger.comwww.explorimmo.com หรือหนังสือ Particulier à particulier (PAP) ซึ่งจะออกขายสัปดาห์ละครั้งทุกวันพฤหัสบดี ข้อดีของการติดต่อกับทาง PAP คือ สามารถติดต่อเจ้าของบ้านได้โดยตรง โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมกับเอเจนซี่

การติดต่อ สามารถส่งอีเมล์หรือโทรศัพท์ถามรายละเอียดของที่พักและการนัดหมายเพื่อขอชมที่พักจากเวปไซต์ สามารถกำหนดให้เว็ปไซต์ทำการเตือน (alerte) โดยระบุความต้องการว่าต้องการที่พักขนาดกี่ตารางเมตรเป็นอย่างน้อย ที่พักอยู่เขตไหน เมืองใด และค่าเช่าสูงสุดที่สามารถจ่ายได้ ตลอดจนให้เว็ปไซต์ส่งรายละเอียดที่ตรงกับความต้องการมาแต่ละวันหรืออาทิตย์ละ 1 ครั้ง หลังจากนั้นให้ติดต่อเจ้าของบ้านเอเจนซี่เพื่อขอเยี่ยมชม

อนึ่ง การติดต่อการเช่าบ้านผ่านบริษัทเอเจนซี่(บริษัทนายหน้า) จะต้องเสียค่าธรรมเนียมให้บริษัทเอเจนซี่อย่างน้อย 1 เดือนของค่าเช่าบ้าน หรือ บางบริษัทอาจจะเรียกเก็บประมาณ 2 เดือน เช่น ค่าเช่าบ้าน 600 ยูโร ก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียม 600 ยูโรเป็นอย่างต่ำหรือประมาณ 600 - 1000 ยูโร นอกจากนี้ ผู้เช่าจะต้องเสียค่าประกันความเสียหายบ้านเช่าให้แก่ผู้ให้เช่า(เจ้าของบ้าน) อีก 1 เดือนของค่าเช่าอีกด้วย

เงินและเอกสารที่จะต้องใช้ในการเช่าบ้าน

1.ค่าประกัน (caution) 1 เดือน

2.ค่าธรรมเนียมให้เอเจนซี่ (honoraires) 1 เดือนของค่าเช่าบ้านหรือมากกว่านั้น

3.ผู้ค้ำประกัน เจ้าของบ้านส่วนมากจะต้องการคนค้ำประกันเป็นชาวฝรั่งเศสที่เสียภาษีเงินได้ในฝรั่งเศสและจะต้องมีเงินเดือนมากกว่าค่าเช่าบ้าน 3 เท่า เอกสารที่ต้องการเช่น บัตรพำนักของ ผู้ค้ำประกัน ใบเงินเดือน 3 เดือนสุดท้าย ใบภาษี

4.หากไม่มีผู้ค้ำประกัน สามารถทำประกันกับธนาคาร (caution bancaire) ซึ่งจะต้องมีเงินในบัญชีเท่ากับค่าเช่าบ้านระหว่าง 6 เดือน - 1 ปี เช่น ค่าเช่าบ้าน 600 ยูโร เงินที่จะทำค้ำประกันจะต้องมีเท่ากับ 600 X 12 = 7200 ยูโร เงินจำนวนนี้จะไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ จะต้องเสียค่าทำประกันประมาณ 100 ยูโร หลังจากนั้น ธนาคารจะเรียกเก็บค่าบำรุงรักษาบัญชีรายเดือน ประมาณเดือนละ 15 ยูโร เมื่อได้ใบประกันจากธนาคารแล้ว ต้องส่งต่อให้เอเจนซี่หรือเจ้าของบ้าน และหากย้ายออก จะต้องขอเรียกคืนใบประกันนี้จากเอเจนซี่หรือเจ้าของบ้านเสมอ

5.บัตรพำนักของผู้เช่า กรณีที่ยังไม่ได้บัตรพำนักก็อาจจะใช้สำเนาหนังสือเดินทางและสำเนาวีซ่าเข้าประเทศฝรั่งเศสไปก่อน

การตรวจสภาพบ้านพัก

การทำ l’état des lieux จะเป็นการตรวจสอบสภาพบ้านพักร่วมกันระหว่างเจ้าของบ้าน(หรือบริษัทนายหน้า) และผู้เช่า โดยเป็นกระบวนการสำคัญที่จะต้องตรวจสอบในกรณีต่างๆของบ้านที่จะเช่า ได้แก่ ทรัพย์สินที่มีอยู่ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ภายในบ้านมีกี่ชิ้นและสภาพเป็นอย่างไร ผนัง พื้น เพดาน ประตู การเดินไฟฟ้า เครื่องทำความร้อน หน้าต่าง ห้องน้ำ ท่อน้ำสภาพเป็นอย่างไร โดยลักษณะสภาพจะแบ่งเป็น สภาพดี (bon état) สภาพปกติ (état moyen) สภาพไม่ดี (mauvais état) ต้องซ่อมแซม ( revêtement) รวมถึงผู้เช่าได้รับกุญแจกี่ดอก

ข้อพึงระวัง และข้อควรทำในการเช่าบ้านในฝรั่งเศส

*** ควรเลือกบ้านพักที่เหมาะสมกับความสามารถในการจ่ายเงินค่าเช่า ประกอบกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่มีความจำเป็นที่เอื้ออำนวยต่อการศึกษา และการพักอาศัย

*** หากเป็นไปได้ก่อนทำการเช่า ควรมั่นใจเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของบ้านพัก เช่น ไม่ควรเลือกพักอยู่ชั้นล่าง ความมืดทึบของบ้าน เสียงดังจากรถยนต์(หันหน้าทางถนน) ความปลอดภัย ความป็นมิตรของเพื่อนบ้าน ผู้ดูแลบ้าน(Guardian) และที่สำคัญคือการเดินทางควรสะดวก ฯลฯ

***หนังสือ Etat des lieux จะถูกร่างเป็น 2 ชุดให้ผู้เช่าและผู้ให้เช่าลงนามรับทราบร่วมกัน เกี่ยวกับสภาพห้องพัก ทรัพย์สินในบ้านพัก โดยผู้เช่าอาจจะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานในกรณีที่บ้านมีสภาพ ไม่สมบูรณ์ เช่น ผนังมีการเจาะรู มีรอยร้าว มีน้ำรั่ว ฯลฯ ทั้งนี้ กรณีบ้านพักที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ ก่อนการทำสัญญาเช่าจะต้องทำการตกลงกับผู้ให้เช่า หรือบริษัทนายหน้าเกี่ยวกับการซ่อมแซมให้มีสภาพพร้อมอยู่ และจะต้องมีการนัดตรวจสภาพอีกครั้งจนกระทั่งพอใจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย

***เมื่อเลิกเช่า จะต้องทำการตรวจสภาพของห้องพักอีกครั้ง หากผู้เช่าทำสิ่งของเสียหาย เจ้าของบ้านพักจะหักเงินจำนวนหนึ่งจากค่าประกัน 1 เดือนที่ให้ไว้

***ผู้เช่าจะต้องทำประกันภัยให้กับห้องพักของตนเอง สามารถทำได้กับบริษัทเอกชนหรือกับธนาคาร โดยผู้เช่ารับผิดชอบจ่ายเอง

***ศึกษาให้ดีเกี่ยวกับเงื่อนไขสัญญาเช่าว่าผู้เช่าต้องเสียค่าเช่าเท่าใด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ท อยู่ในความรับผิดชอบใคร(ปกติผู้เช่าต้องจ่ายเอง)

***ตกลงกับผู้ให้เช่า หรือ บริษัทนายหน้าให้ดีเกี่ยวกับการเปิดมิเตอร์ค่าไฟ-น้ำ โทรศัพท์ ว่าใครเป็นผู้ดำเนินการ และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเท่าใด

***ศึกษาเงื่อนไขในสัญญาเช่าที่อาจจะทำให้ผู้เช่าเสียเปรียบ เช่น การเก็บค่าประกันบ้าน ระยะเวลาเช่า การขึ้นค่าเช่า การยกเลิกสัญญาเช่า ฯลฯ

สัญญาเช่า (contrat de location) จะระบุรายละเอียดของผู้ให้เช่าและผู้เช่า และรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. สถานที่เช่า

2. หลักการทางกฏหมาย คือ การเช่าจะต้องให้สำหรับเป็นที่พักอาศัยหลัก

3. ระยะเวลา - การยกเลิกสัญญาเช่า ระบุระยะเวลาเช่า เช่น 1 ปี หรือ การเลิกเช่า ต้องบอกแจ้งเจ้าของที่พักภายในกำหนด เช่น 2 เดือน หรือหากต้องการต่อสัญญาเช่าจะต้องแจ้งเจ้าของที่พักภายในระยะเวลา 1 เดือนก่อนสัญญาหมดอายุ

4. ค่าเช่าและค่าบำรุงรักษาพื้นที่ส่วนกลาง กำหนดว่าจะต้องจ่ายค่าเช่าโดยการโอนเงินทางธนาคาร ทางเช็ค และจะต้องจ่ายวันที่เท่าไหร่ของเดือน รวมถึงการกำหนดการทบทวนค่าเช่าบ้าน

5. การวางค่าประกัน ประมาณ 1 – 2 เดือนของค่าเช่าบ้าน

6. ข้อบังคับ เช่น จ่ายค่าเช่าบ้านตามเวลาที่กำหนด ผู้เช่าจะต้องทำประกันภัยด้วยตนเอง หากมีความเสียหายภายในที่พัก จะต้องแจ้งผู้ให้เช่า ห้ามให้ผู้อื่นเช่าต่อ

ข้อควรระวัง

1.สัญญาเช่าทั้งผู้ให้เช่าและผู้เช่าจะต้องลงนามทั้งสองฝ่าย จึงควรต้องอ่านและเข้าใจทุกๆ ข้ออย่างละเอียด หากไม่เข้าใจหรือไม่เห็นด้วย หรือไม่ไเป็นไปตามข้อตกลงก็ไม่ควรลงนาม

2.เก็บหลักฐานสัญญาเช่าไว้ให้ดี เพราะจะต้องใช้ในอีกหลายกรณี และสามารถไว้ใช้อ้างอิงกรณีเจ้าของบ้านไม่กระทำตามสัญญาเช่า

การขอเงินช่วยเหลือ Aide personnalisée au logement APL เงื่อนไขของการขอ

1.ต้องมีชื่อในสัญญาเช่าบ้าน และ 2.ต้องจ่ายเงินค่าเช่าบ้าน หากญาติหรือผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันให้เช่า จะไม่สามารถขอเงินช่วยเหลือได้

จำนวนเงินที่จะได้รับขึ้นอยู่กับรายได้ สถานภาพทางครอบครัว ลักษณะของที่พัก สถานที่พัก ค่าเช่าที่พักวันที่ได้รับเงินช่วยเหลือ หากเข้าที่พักวันที่ 1 พฤศจิกายนและการขอเงินช่วยเหลือได้รับการตอบรับ จะได้รับเงินช่วยเหลือของเดือนธันวาคมในเดือนมกราคม

สามารถกรอกข้อมูลเพื่อขอเงินช่วยเหลือหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.caf.fr

ประเภทข่าว: 

Share this post

สำนักงาน ก.พ.

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) องค์การกลางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลในราชการพลเรือน ภายใต้ระบบคุณธรรมทำหน้าที่ส่งเสริมการพัฒนาข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีคุณภาพชีวิตและการทำงานที่ดี และพัฒนาระบบการ บริหารกำลังคนในราชการ ให้เป็นกลไกการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติอย่างมีประสิทธิภาพ