ค้นหาข้อมูล
สำนักงาน ก.พ.

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) และแถลงข่าว โครงการบูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัยกับสถานที่ทำงานและศูนย์บริการของข้าราชการพลเรือนสามัญ

เมื่อวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563 เวลา 13.30 น. หม่อมหลวงพัชรภากร เทวกุล เลขาธิการ ก.พ. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงและร่วมแถลงข่าว “โครงการบูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัยกับสถานที่ทำงานและศูนย์บริการของข้าราชการพลเรือนสามัญ” ซึ่งกรมธนารักษ์จัดขึ้น ณ อาคาร 72 ปี กรมธนารักษ์ โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายสันติ พร้อมพัฒน์) เป็นประธานในพิธี โดยในส่วนของโครงการบูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัยกับสถานที่ทำงานและศูนย์บริการของข้าราชการพลเรือนสามัญ เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงาน ก.พ. กรมธนารักษ์ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งเป็นแนวคิดร่วมระหว่างสำนักงาน ก.พ. และกรมธนารักษ์ ที่จะจัดสวัสดิการและเสริมสร้างคุณภาพงาน คุณภาพชีวิตให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ โดยบูรณาการสถานที่พักอาศัย สถานที่ทำงาน และศูนย์บริการประชาชนให้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน โดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่ราชพัสดุและนำมาพัฒนาโดยการจัดสร้างอาคารพักอาศัยรวม (Co-Living Space) เพื่อให้ข้าราชการพลเรือนสามัญมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งผู้ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการจะได้รับกรรมสิทธิ์ห้องพักอาศัยเป็นของตนเองและได้รับสิทธิเช่าที่ดินราชพัสดุเป็นระยะเวลา 30 ปี

ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ. ได้ร่วมพิจารณารูปแบบโครงการ และเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการประชาสัมพันธ์และพัฒนาระบบรับจองผ่านทางเว็บไซต์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยขณะนี้กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดโครงการ และจะเปิดให้ผู้สนใจจองโครงการผ่านเว็บไซต์สำนักงาน ก.พ. และเว็บไซต์กรมธนารักษ์เร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ ในระยะต่อไป สำนักงาน ก.พ. และกรมธนารักษ์มีแนวคิดที่จะพัฒนาให้มีสถานที่ทำงานร่วม (Co-Working Space) และศูนย์บริการร่วมของทางราชการ (Government Service Centre) โดยจะพิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ต่อไปด้วย

ประเภทข่าว: 
ภาพในเนื้อหาข่าว: 

Share this post

สำนักงาน ก.พ.

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) องค์การกลางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลในราชการพลเรือน ภายใต้ระบบคุณธรรมทำหน้าที่ส่งเสริมการพัฒนาข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีคุณภาพชีวิตและการทำงานที่ดี และพัฒนาระบบการ บริหารกำลังคนในราชการ ให้เป็นกลไกการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติอย่างมีประสิทธิภาพ