เกี่ยวกับโครงการ นบส. 1
หลักการและเหตุผล
การพัฒนาผู้นำหรือผู้บริหารของภาคราชการเพื่อให้เป็นกลไกหลักสำคัญที่จะนำการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์
การพัฒนาประเทศให้เกิดผลในทางปฏิบัตินั้น ได้ถูกกำหนดให้เป็นเป้าหมายยุทธศาสตร์ที่สำคัญของทั้งรัฐบาลและสำนักงาน ก.พ. อย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงาน ก.พ. ได้ดำเนินการจัดการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 และได้ทำการศึกษา พัฒนาและปรับปรุงรูปแบบวิธีการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถเสริมสร้างศักยภาพในการเป็นผู้บริหารและผู้นำ
การเปลี่ยนแปลงที่ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของภูมิภาคและของโลกที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาอย่างซับซ้อนและรวดเร็ว
ภายใต้แนวทางการพัฒนาผู้บริหารภาคราชการดังกล่าว สำนักงาน ก.พ. ได้กำหนดให้มีโครงการสร้างและพัฒนาผู้นำ “หลักสูตร นักบริหารระดับสูง : ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และคุณธรรม (นบส.1)” เพื่อให้นักบริหารระดับสูงในภาคราชการได้รับความเชื่อถือไว้วางใจ ความเชื่อมั่น (Trust and Confidence) และการยอมรับจากผู้ร่วมงาน ประชาชน ผู้รับบริการ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายและทุกภาคส่วน มีการทำงานอย่างมืออาชีพและเป็นสากล สามารถนำการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ อันจะนำไปสู่ประโยชน์สุข
ของประชาชนและความมั่นคงของประเทศต่อไป
วัตถุประสงค์
- เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการหรือเทียบเท่าในการเข้าสู่ตำแหน่งประเภทบริหารเพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจ เชื่อมั่น ศรัทธา จากผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยจัดการเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง และมีส่วนร่วมในการพัฒนาผู้อื่น ตามบทบาทหน้าที่ทางการบริหารและการมีภาวะผู้นำ (Management and Leadership Roles and Functions) ในด้าน
- การบริหารตน และการบริหารคน (Self and People Management)
- การบริหารเป้าหมายทิศทาง และการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Visioning and Change Management)
- การบริหารผลลัพธ์ และการบริหารทรัพยากรที่มุ่งสู่ผลลัพธ์ (Results and Resources Management)
- เพื่อพัฒนาผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้ตระหนักถึงคุณลักษณะและพฤติกรรมที่บ่งชี้ถึงความสามารถทางการบริหารและการมีภาวะผู้นำ เพื่อชีวิตและการทำงานในบริบทสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง โดยกำหนดจุดเน้นของการพัฒนาในเรื่องของการตัดสินใจ การสื่อสาร การประสานงานประสานสัมพันธ์ การปรับตัวและความยืดหยุ่น จิตมุ่งบริการ และการบริหารทรัพยากร
ปรัญญาและแนวความคิดของหลักสูตร
ปรัชญา
เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการพัฒนาผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้มีภาวะผู้นำ และความสามารถในการบริหารจัดการคุณภาพงาน และคุณภาพชีวิตของตนเองและผู้อื่นได้ในปัจจุบัน และสอดรับต่อการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าของบทบาทหน้าที่การงาน และชีวิตในอนาคต ซึ่งนำไปสู่การได้รับการยอมรับ ความเชื่อมั่น และความศรัทธา (Trust and Confidence) จากผู้รับบริการ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำงาน และจากทุกภาคส่วน
แนวคิด
- เป็นหลักสูตรเสริมสร้างความสามารถในการทำหน้าที่การบริหารจัดการและบทบาทภาวะผู้นำ (Management and Leadership Roles and Functions) ที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กันในมิติต่าง ๆ ได้แก่ การบริหารตนและการบริหารคน การบริหารเป้าหมายทิศทาง และการบริหารการเปลี่ยนแปลง การบริหารผลลัพธ์ และการบริหารทรัพยากร และเทคโนโลยีการทำงาน
- ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้พัฒนาตนเอง (Personal Development) และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาผู้อื่นด้วยกระบวนการกลุ่ม (Group Process)
- จัดรูปแบบการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น สามารถตอบสนองรูปแบบ (Styles) ความต้องการและความจำเป็นเฉพาะตน (Individual Needs) ในการพัฒนาสมรรถนะด้านการบริหารจัดการและภาวะผู้นำได้ โดยให้ความสำคัญกับเครื่องมือและกระบวนการประเมินสมรรถนะเพื่อการพัฒนา (Formative Assessment) การบริหารแผนการพัฒนาเฉพาะตน (Individual Development Plan)
ที่เชื่อมโยงกับแผนการพัฒนาของส่วนราชการ (Organization HRD Plan) - พัฒนาผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้มีภาวะผู้นำและความสามารถในการบริหารจัดการที่เหมาะสม ทันสมัย โดยเน้นทั้งสมรรถนะที่เป็นสากลและสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับบริบทราชการไทย
- เป็นหลักสูตรที่สามารถก่อให้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างครบถ้วนสมดุลในทุกมิติ ได้แก่ การเรียนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ (Learning to Learn) การเรียนรู้เพื่อการปฏิบัติตามรูปแบบภาวะผู้นำและการบริหารจัดการของตนในสถานการณ์ต่าง ๆ (Learning to do)
การเรียนรู้เพื่อคุณภาพชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง (Learning to be) และการเรียนรู้เพื่อการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและความหลากหลายของบุคคลและสังคม (Learning to Live with Others) เพื่อให้นักบริหารระดับสูงได้พัฒนาทั้งในด้านความรู้ การปฏิบัติ การมีคุณภาพชีวิตและการทำงานที่ดีในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และสามารถแสดงภาวะผู้นำและความสามารถในการบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสมในสภาพสังคมที่มีความแตกต่างหลากหลาย